วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ดาราศาสตร์-ศาสตร์แห่งดวงดาว ทำให้มนุษย์รู้จักจักรวาล

ดาราศาสตร์-ศาสตร์แห่งดวงดาว ทำให้มนุษย์รู้จักจักรวาล

Pic_21964

หนึ่งในศาสตร์โบราณ และเป็นวิทยาการที่ได้รับการพัฒนา มาอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน คือ ดาราศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาที่เกี่ยวกับวัตถุต่างๆ บนท้องฟ้า และนอกโลก อันนำไปสู่การไขความลับแห่งจักรวาล

400 ปีที่แล้ว หรือตรงกับ ค.ศ.1609 กาลิเลโอ กาลิเลอี นักดาราศาสตร์ชาวอิตาลี ใช้กล้องโทรทรรศน์ ที่เกิดจากการประดิษฐ์ของเขา ส่องขึ้นสำรวจท้องฟ้า เป็นครั้งแรก ทำให้พบว่าผิวของดวงจันทร์ เต็มไปด้วยหลุมและภูเขา อีกทั้งยังพบดวงจันทร์บริวาร 4 ดวงของดาวพฤหัสบดี และพบว่าดาวศุกร์มีดิถีเช่นเดียวกับดวงจันทร์ของโลก ทำให้การค้นพบดังกล่าว เป็นการปฏิวัติแนวความคิดของมนุษย์ เกี่ยวกับตำแหน่งของโลกในเอกภพ



จาก 400 ปีที่แล้ว ทำให้ปีนี้กลายเป็นปีดาราศาสตร์สากล หลังจากการประชุมทั่วไป ของสหพันธ์ดาราศาสตร์นานาชาติ ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2003 มีมติเป็นเอกฉันท์สนับสนุนให้องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้ปี 2009 เป็นปีดาราศาสตร์สากล ต่อมาในเดือนตุลาคม 2005 องค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ ได้ลงนามรับรองปีดาราศาสตร์สากล และเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2007 องค์การสหประชาชาติได้ประกาศ อย่างเป็นทางการ ให้ปีนี้เป็นปีดาราศาสตร์สากล

นอกจากนี้ ในปี 2009 ยังเป็นการครบรอบ 400 ปี ของการพิสูจน์แนวคิดเรื่องดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ของนิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส โดยการใช้กล้องโทรทรรศน์สังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ของกาลิเลโอ ช่วยยืนยันแนวคิดของโคเปอร์นิคัส ซึ่งเป็นการเปลี่ยนคติและความเชื่อเก่าแก่ที่ว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ซึ่งเป็นแนวคิดของอริสโตเติล

ความมุ่งหมายของปีดาราศาสตร์สากล 2009 คือ การสร้างความตื่นตัวทั่วโลก ให้เกิดความสนใจในดาราศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ โดยเน้นที่กลุ่มเยาวชน ภายใต้แนวคิดที่ว่า "เอกภพสัมผัสได้ด้วยตัวคุณ" ขณะที่กิจกรรมจะเน้นลงพื้นที่ ถึงระดับท้องถิ่น ซึ่งในแต่ละประเทศ จะมีหน่วยงานหลัก ทำหน้าที่เตรียมความพร้อมสำหรับกิจกรรม ในปีนี้ และสร้างความร่วมมือระหว่างนักดาราศาสตร์ นักดาราศาสตร์สมัครเล่น ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นักการศึกษา และผู้สื่อข่าวทางวิทยาศาสตร์

ดาราศาสตร์เป็นหนึ่งในสาขาของวิทยาศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุด นับตั้งแต่มีมนุษย์อยู่บนโลก โดยเป็นวิชาวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาวัตถุท้องฟ้า รวมทั้งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากนอกชั้นบรรยากาศของโลก โดยศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการ ลักษณะทางกายภาพ ทางเคมี ทางอุตุนิยมวิทยา และการเคลื่อนที่ของวัตถุท้องฟ้า ตลอดถึงการกำเนิด และวิวัฒนาการของเอกภพ



ส่วนดาราศาสตร์ในเมืองไทยนั้น ธงชัย สถาพร เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) บอกว่า มีผู้รู้ทางด้านดาราศาสตร์หลายคน และมีนักวิชาการที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการดาราศาสตร์ ของต่างประเทศ มีความร่วมมือทางวิชาการกับนานาชาติ และผลงานของนักวิชาการไทย ตีพิมพ์ในวารสารที่มีชื่อเสียงของต่างประเทศ แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างองค์รวมของดาราศาสตร์ไทย ที่ชัดเจนได้ ขณะที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติเอง ก็เพิ่งก่อตั้งได้เพียงไม่กี่ปี

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติถูกจัดตั้งขึ้น ตามที่มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2547 เห็นชอบในหลักการแก่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดตั้งสถาบันนี้ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสฉลอง 200 ปี แห่งการพระราชสมภพ ในปี พ.ศ.2547 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในวโรกาสเจริญพระชนมายุ ครบปีพระราชสมภพ 80 พรรษา ในปี พ.ศ.2550

ภารกิจหลักอันดับหนึ่งของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ คือ การสร้างหอดูดาวแห่งชาติ ณ บริเวณยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคาร ศูนย์บริการสารสนเทศและฝึกอบรมทางดาราศาสตร์ ซึ่งจะเป็นศูนย์ควบคุม และรับข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.4 เมตร ของหอดูดาวแห่งชาติ ที่คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมติดตั้ง ในปลายปีนี้ จากนั้นจะให้บริการงานวิจัย และวิชาการแก่ชุมชนได้ ในต้นปีหน้า 

ธงชัย มั่นใจว่า วงการดาราศาสตร์ไทยต่อจากนี้ จะมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ เมื่อหอดูดาวแห่งชาติแห่งนี้สร้างเสร็จ เนื่องจากมีความโดดเด่นในเรื่องกล้องโทรทรรศน์ ที่เตรียมติดตั้ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อการศึกษาดาราศาสตร์ 



"ความพร้อมทางเครื่องมือ จากที่มีแค่กล้องปฏิบัติการ ระดับไม่ถึงครึ่งเมตร กลายเป็น 2.4 เมตร ทำให้การศึกษาสามารถไปไกล ได้ถึงการศึกษาดาวเคราะห์นอกระบบ จากเครื่องภายในประเทศ"

อย่างไรก็ตาม นอกจากการพัฒนาอุปกรณ์การศึกษา ทางด้านดาราศาสตร์แล้ว ในเรื่องบุคลากรก็เป็นสิ่งสำคัญควบคู่กัน ธงชัย บอกว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีเด็กๆ สนใจดาราศาสตร์มากขึ้นบ้างแล้ว โดยส่วนตัวเขาเอง เรียนจบสาขาฟิสิกส์ดาราศาสตร์ เนื่องจากชอบและคิดว่าเป็นวิชาที่น่าสนใจ แต่โจทย์สำคัญข้อหนึ่ง คือ เมื่อเรียนจบ จะมีงานทำหรือไม่ ซึ่งเขาคิดว่าเด็กๆ หลายคน ก็ลังเลในส่วนนี้ 

"คนส่วนใหญ่มักคิดว่า จบไปแล้วทำอะไร ถ้าเราเรียนด้วยความรู้สึกที่ว่าเรารักในวิชาชีพนั้นๆ เราย่อมหาทางออกของเราได้เสมอ ... ตอนนี้ กับสี่ปีที่แล้ว สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างมาก คือ ตอนนี้ เริ่มมีคนหันมาเรียนดาราศาสตร์ ... เราสามารถให้หลักประกันได้ว่า ถ้าคุณเรียนดาราศาสตร์แล้ว มีผลการเรียนที่น่าพึงพอใจจริงๆ ก็มีโอกาสเข้าร่วมงานกันได้"

ธงชัย ยอมรับว่า การเกิดสุริยุปราคา และจันทรุปราคา ในประเทศไทย แต่ละครั้ง สามารถกระตุ้นคนไทยให้สนใจดาราศาสตร์ ได้เพียงช่วงระยะของการเกิดปรากฏการณ์เท่านั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ยังน่ายินดีที่ว่า เมื่อจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง ที่เกี่ยวกับปรากฏการณ์เหล่านั้น ก็ได้รับการตอบรับที่ดี และมีผู้ร่วมงานจำนวนมาก แต่การทำนายทางโหราศาสตร์ ที่เกิดจากปรากฏการณ์ ทางดาราศาสตร์นั้น ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน



สำหรับเด็กๆ ที่ต้องการศึกษาด้านดาราศาสตร์ นอกจากจะต้องชอบด้านนี้ เป็นพื้นฐานแล้ว ธงชัยแนะนำว่า จะต้องเลือกเรียนสายวิทย์-คณิต ในชั้น ม.ปลาย และสอบเข้าคณะวิทยาศาสตร์ จากนั้นก็เลือกสาขาฟิสิกส์ แต่ขอให้ตรวจสอบหลักสูตรก่อนว่า มีการสอนดาราศาสตร์มากน้อยเพียงใด เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง

ต่อข้อถามที่ว่าดาราศาสตร์ดูจะเป็นวิชาที่ยาก และค่อนข้างไกลตัว ธงชัยตอบพร้อมกับรอยยิ้มว่า การศึกษาทุกอย่าง ต้องใช้ความใส่ใจเป็นสำคัญ ดาราศาสตร์ก็เช่นกัน

"เราไม่ต้องจำให้ได้ทั้งหมดว่า ดาวดวงนี้ ชื่ออะไรบ้าง แต่เรารู้ว่าดาวดวงนี้ เป็นดาวประเภทไหน ซึ่งลักษณะทางกายภาพหลายๆ อย่าง จะเป็นตัวบอกว่า เราจะสังเกตได้จากอะไร เราจะเรียนรู้ได้จากอะไร และจะคำนวณได้จากอะไร ... ดาราศาสตร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว อย่างน้อยๆ แค่เราแหงนหน้าขึ้นไป ก็เป็นส่วนหนึ่งของดาราศาสตร์แล้ว และไม่ว่าระบบปฏิทิน หรือระบบต่างๆ ที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ สิ่งเหล่านี้มาจากดาราศาสตร์ทั้งนั้น"

... เพียงแหงนมองฟ้า ... สัมผัสถึงการเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล ... ดาราศาสตร์ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม ...

http://www.thairath.co.th/content/edu/21964

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.parent-youth.net
http://www.familynetwork.or.th
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://ilaw.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://icann-ncuc.ning.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.webmaster.or.th
http://www.thailandshowtime.com/2009

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น