วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552

มหิดลพบวิธีกำจัดแผลคีลอยด์

ไอที-นวัตกรรม : วิทยาศาสตร์

วันที่ 17 กรกฎาคม 2552 06:00

มหิดลพบวิธีกำจัดแผลคีลอยด์

บัณฑิตปริญญาโทมหิดล พบเทคนิคใหม่กำจัดแผลเป็นชนิดปูดโปน หรือที่เรียกกันว่าแผลคีลอยด์ได้สำเร็จ ด้วยเทคโนโลยีทางพันธุกรรม
นส.พันธกานต์ ทิศอุ่น บัณฑิตปริญญาโท สาขาชีวเคมี มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) พัฒนาเทคนิคใหม่รักษาแผลเป็นรอยนูน (คีลอยด์) ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของยีนได้สำเร็จในระดับห้องปฏิบัติการ โดยรอยแผลเป็นดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขด้วยการผ่าตัด และยิ่งผ่าตัดยิ่งขยายรอยแผลให้ใหญ่ขึ้น

 แผลคีลอยด์ คือแผลเป็นที่มีเนื้อมาปิดบาดแผลมากเกินไป ทำให้แผลเป็นมีลักษณะปูดโปนเป็นก้อนนูนแข็งขนาดใหญ่กว่าแผลเป็นทั่วไป เป็นผลจากคลอลาเจนสร้างเซลล์เส้นใยมากผิดปกติ การเกิดแผลลักษณะดังกล่าวได้รับถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม ตลอดจนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมักพบภายหลังการผ่าตัด เช่น หลังผ่าตัดไส้ติ่ง หลังผ่าตัดคลอดลูก หลังผ่าตัดช่องท้อง ผู้ที่เป็นแผลคีลอยด์จะเกิดอาการเจ็บๆ คันๆ
 
"วิธีการรักษาแผลคีลอยด์โดยทั่วไป แพทย์จะผ่าตัดบาดแผลเอาชิ้นเนื้อคีลอยด์ออก แต่ยิ่งตัดก็ยิ่งปูดโปนออกมา จึงไม่ใช้วิธีแก้ปัญหาที่ต้นตอ ส่วนการรักษาด้วยยาสเตียรอยด์อาจส่งผลอันตรายต่ออวัยวะอื่น" นักวิจัยกล่าว

 ทีมวิจัยได้ประยุกต์เทคนิคการแทรกแซงอาร์เอ็นเอ (RNAi) ซึ่งเป็นกระบวนการควบคุมการแสดงออก หรือยับยั้งความผิดปกติของเซลล์ในระดับยีน โดยสร้างอาร์เอ็นเอสายคู่นำเข้าสู่เซลล์ เพื่อทำปฏิกิริยาชักนำให้เกิดการสลาย หรือยับยั้งการแสดงออกของยีนที่ผิดปกติ โดยมุ่งเป้าไปที่โปรตีนผลิตคอลลาเจนที่ผิดปกติ จนสร้างให้เกิดแผลเป็นคีลอยด์

 จากการทดลองร่วมกับภาควิชาศัลยศาสตร์ โดยนำชิ้นเนื้อแผลคีลอยด์มาเพาะเลี้ยงจนเกิดการสร้างเส้นใย แล้วสร้างอาร์เอ็นเอสายคู่ที่มีความจำเพาะกับคอลลาเจนนำไปทดสอบ พบสามารถสลายยีนได้จำเพาะเจาะจง โดยระดับการอยู่รอดของเซลล์สร้างเส้นใยคอลลาเจน ลดต่ำลง 70-80% เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ใช้เทคนิคแทรกแซงอาร์เอ็นเอ

 "เทคนิคดังกล่าวสามารถทำให้เซลล์ตาย และลดความรุนแรงของแผลปูดโปนได้จริง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเทคนิคเพื่อใช้รักษาแผลคีลอยด์ หรือ Fibrotic disease ที่เกิดจากการสร้างคอลลาเจน หรือพังผืดมากผิดปกติในอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด และไต"

 อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยอมรับว่ายังต้องศึกษาวิจัยระดับลึกมากขึ้น โดยเฉพาะขั้นตอนการวิจัยในมนุษย์ ทั้งนี้ เทคโนโลยีแทรกแซงอาร์เอ็นเอยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ยับยั้งยีนที่ไม่ต้องการ อาทิเช่น ยีนผิดปกติที่อาจก่อให้เกิดเซลล์มะเร็ง และยีนของเชื้อก่อโรคอื่นด้วย

 ผลงานวิจัยเรื่องการยับยั้งการผลิตคอลลาเจนในเซลล์สร้างเส้นใยจากแผลคีลอยด์ โดยใช้การแทรกแซงอาร์เอ็นเอ ผ่านการพิจารณาให้รับรางวัลวิทยานิพนธ์ดีเด่นของมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับผลงานวิจัยเรื่อง การศึกษาชีวภาพความพร้อมของการดูดซึมและนำไปใช้ และผลในการยับยั้งการอักเสบและภาวะดื้อต่ออินซูลินของสารแซนโธนจากมังคุดในเซลล์ไขมันมนุษย์ โดย ดร.เอกราช บำรุงพืชน์ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต โภชนศาสตร์

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/science/20090717/60984/มหิดลพบวิธีกำจัดแผลคีลอยด์.html

--
  ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.thaiyogainstitute.com
http://www.thaihof.org
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://ilaw.or.th
http://www.pnac-th.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.oknation.net/blog/roungkaw
http://www.oknation.net/blog/pacm/2009
http://dbd-52.hi5.com
http://www.thaisara.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น